สเปน
หากให้นับเมืองในฝันของเหล่านักท่องเที่ยว ชื่อเสียงของ
เมืองมาดริด ใน ประเทศสเปน ต้องติดอยู่ในอันดับต้น ๆ แน่นอน
เพราะเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ด้วยจุดเด่นในความงดงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ทรงคุณค่า นอกจากนี้ยังเป็น
ที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลระดับโลก
รีล
มาดริด
ที่คนไทยหลายคนรู้จักกันดี
ประเทศสเปนนั้นมีชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยวมาก
เพราะมีคุณสมบัติเอื้อต่อการท่องเที่ยวแทบทุกด้าน ทั้งศิลปวัฒน ธรรม โบราณสถาน
รวมทั้งยังมีกิจกรรมที่น่าตื่นตาและยังคงเป็นจุดสนใจของนักเดินทางทั่วโลกอย่างเช่น
กีฬาสู้วัวกระทิง
และสำหรับนักเต้นรำแล้ว ที่นี่ยังถือว่าเป็นต้นตำรับการเต้นรำ ฟลามิงโก้ ที่ลือชื่อ
ซึ่งเป็นการเต้นประกอบเสียง ระรัวของกีตาร์ในจังหวะเร้าใจ
นักเต้นจะบิดกายไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวแขนทั้งสองข้างในลักษณะสะบัดไหวร่ายรำไปตามอารมณ์ของบทเพลง
จุดเด่นที่ตราตรึงใจของฟลามิงโก้คือ
จังหวะกระแทกส้นเท้าลงกับพื้นพร้อมขยับกรับในมือให้เกิดเสียงเข้ากับจังหวะดนตรี
ไปสเปนไม่ต้องห่วงว่า จะไม่ได้เที่ยว ! เพราะสเปนเที่ยวได้ทั้งปี
แต่ถ้าจะเลือกเดินทางที่เป็น ฤดูท่องเที่ยว จริง ๆ ก็ต้อง
เลือกเดินทางไปช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน เพราะเริ่มเป็นหน้าร้อน
ซึ่งถือเป็นฤดูท่องเที่ยวของชาวยุโรป
แต่ถ้าเป็นคนไทยอย่างเรา ๆ ที่เจอความร้อนจนชิน ก็อาจจะเลือกไปเที่ยวตามภูเขา
เพราะยังมีอากาศหนาว ส่วนถ้าใครอยากสัมผัสหน้าร้อนแบบ สเปนแท้ ๆ
ต้องเลือกล่องใต้ไปเที่ยวตาม อลิกานเต้ หรือที่ เกาะมาโยก้า ของสเปนแทน
ก่อนจะไปบ้านใคร... นักเที่ยวควรศึกษานิสัยใจคอเจ้าบ้านไว้บ้าง !?
ชาวสเปนถือเป็นชนชาติที่หยิ่งในศักดิ์ศรีไม่แพ้ กับชาวฝรั่งเศส ทว่าแม้จะดูชาตินิยม
แต่เนื้อแท้ลึก ๆ แล้วชาวสเปนเป็นคนเปิดเผย ใจกว้าง และเอื้อเฟื้อต่อคนแปลกหน้า
ชอบใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รักสนุก และชอบความสบาย
เวลาเริ่มทำงานของคน สเปนจะเริ่มต้นราว
9
โมงเช้า
ไปจนถึงช่วงบ่าย เวลาพักเที่ยงจริง ๆ จะไปหยุดเอาช่วงราวบ่ายสาม
และอาจยาวไปถึงบ่ายสี่ จากนั้นจึงจะกลับมาทำงานต่อจนถึงหกโมงเย็นหรือหนึ่งทุ่ม
หากเป็นตามห้างสรรพสินค้าจะเปิดให้บริการตั้งแต่
10
โมงเช้าถึงสามทุ่ม นักช้อปทั้งหลายควรจะเช็กเวลาเปิด-ปิดก่อนจะได้ไม่ไปรอเก้อ
สาเหตุที่ร้านค้ามักหยุด พักเที่ยงเพราะในช่วงหน้าร้อน ของสเปนจะร้อนมาก อาหารมื้อ
ค่ำจึงเริ่มประมาณสามทุ่มถึงห้า ทุ่ม จากนั้นก็เป็นเวลาดื่ม ซึ่งจะ
ยาวไปจนถึงตีสองตีสามกว่าจะเลิก และถ้าเป็นวันศุกร์ก็อาจยาว นานจนถึงเช้า
นอนดึก
ๆ อย่างนี้เอง ชาวสเปนจึงต้องมีเวลางีบตอนพักเที่ยง ร้านค้าต่าง ๆ จึงปิดตอนเที่ยง
!!
เรื่องอาหารการกิน เมนูที่ขึ้นชื่อคือ
เปเอญ่า
หรือข้าวผัดสเปน และ
ตอร์ติญ่า
ที่มีหน้าตาเหมือนไข่เจียวใส่มัน
ไถ่ถามคนในคณะที่ไปร่วมหัวจมท้ายด้วยกันว่าระหว่างเมนูตอร์ติญ่า กับเปเอญ่า
อะไรที่ถูกปาก ถูกใจคนไทยมากกว่ากัน ต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เปเอญ่า
เพราะคล้ายกับข้าวผัดทะเลของบ้านเรา สำหรับเช้านั้นจะมี
ปา
ท่องโก๋สเปน
หรือที่เรียกกันว่า
ชูโรส์
ทานแกล้มกับน้ำตาลหรือช็อกโกแลต
มาถึงไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้
แม้จะดูแล้วออกหวาดเสียวหรือโหดร้ายจิตใจนักอนุรักษ์ไปสักนิดกับ...การเข้าไปชมเกม
การสู้วัวกระทิง เพราะถือเป็นจุดขายของสเปน การสู้วัวกระทิงจะเริ่มในหน้าร้อนแล้ว
จะไปสิ้นสุดในเดือนตุลาคม ซึ่งจะมีให้ดูเกือบทุกหมู่บ้าน โดยจะจัดปีละครั้งเท่านั้น
สาเหตุที่การสู้วัวกระทิงเป็นที่นิยมมาก เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาด
และปฏิภาณของมนุษย์ที่สามารถล้มสัตว์ตัวยักษ์ลงได้
ด้วยเครื่องแต่งกายและท่าทีอันสง่างามของนักสู้วัว
หรือที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อเรียกว่า
มาธาดอร์
...ก่อนการสู้วัวกระทิงจะเริ่มขึ้นจะมีประเพณีที่เรียกว่า
Encierros
หรือการวิ่งหนีวัว เพื่อ เป็นการเรียกน้ำย่อยกันก่อน
ซึ่งมักเป็นภาพข่าวปรากฏอยู่ทุกปี เท่าที่ไต่ถามจากผู้รู้ก็ได้รับคำบอก เล่าว่า
คืนก่อนการสู้วัวคนในหมู่บ้านมักจะดื่มเหล้ากัน ไม่ใช่ทำให้ความกลัวลดน้อยลง
แต่เพื่อ ความบันเทิง พอรุ่งเช้าคนที่จะวิ่ง หนีวัวมายืนรอ พร้อมทั้งใส่ชุดสี ขาว
ผูกผ้าพันคอสีแดง
จุดเริ่มต้นที่จะปล่อย วัว คือก่อนทางเข้าสนามสู้วัวประมาณ
500 เมตร เมื่อทุก
อย่างเข้าที่ดีแล้ว ก็จะปล่อยฝูง
วัวกระทิงออกมาท่ามกลางคลื่นมนุษย์ที่จะต้องพยายามวิ่งหนี
ซึ่งการวิ่งหนีวัวนี้จะใช้เวลา 5-6
นาที
จากนั้นวัวกระทิงทั้งหลาย ก็จะถูกต้อนให้ไปอยู่ในคอกเพื่อเตรียมตัวต่อสู้กับมาธาดอร์ในตอนบ่าย
มีความเชื่อกันว่าระหว่างวิ่ง
หากหกล้มให้กลั้นใจไว้ วัวจะไม่เหยียบ
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่นอกเหนือไปจากนครมาดริดนั้นมีหลายแห่ง
แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดคือ
โทเลโด
ซึ่งต้องเดินทางลงทางตอนใต้ไปราว
72
กิโลเมตร โทเลโดเป็นเมืองที่สร้างอยู่บนหน้าผาสูงและข้างล่างเป็นแม่น้ำที่มีตลิ่งสูงชัน
จุดแรกที่น่าเข้าชมมากที่สุดคือ ปรา สาทชันเซร์วันโด
ที่สร้างขึ้นโดยทหารโรมันเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้าม มาทำลายสะพาน
เมืองโทเลโดนี้
จึงมีจุดเด่นในเรื่องชัยภูมิและสภาพทางภูมิศาสตร์ และถือเป็น
1
ในดินแดนเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีการวางผังเมืองเพื่อการปกป้องตัวเอง
ได้เป็นอย่างดี
แม้จะกลายเป็นกรุงเก่าแห่งสเปน แต่โทเลโดก็ยังคงความยิ่งใหญ่ เพราะได้รับการรับ
รองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองแห่ง มรดกโลก ที่นี่จึงเปรียบเสมือนเบ้าหลอมทางอารยธรรมของพวก
มัวร์ และชาวคริสเตียน อีกทั้งยังรวมถึงอารยธรรมของชาวยิวอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวใน โทเลโด ที่ถือว่ามาแล้วต้องแวะชมคือ โบสถ์ซินาก็อก
โบสถ์สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่ สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างนานถึง
226
ปี
อยู่ใกล้กับมัสยิดของอาหรับ ภายในโบสถ์มีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตร
ด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน และมีงานศิลปะ ล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่ทำด้วยทองคำ เพชร
พลอย และเงิน รวม
5,600
กว่าชิ้น
มีน้ำหนักมากถึง
200
กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สะสมภาพเขียนของจิตรกรมีชื่อเสียงของโลกหลายท่าน เช่น เอล
เกรโก โกย่า และ เบลาสเกซ
ถัดไปไม่ไกลยังมีศาสนสถานของชาวยิว ที่สำคัญชื่อว่า โบสถ์ซันตา มาเรีย เดอ ลา บลันเซ
มีสิ่งที่น่าสนใจคือการสะท้อนถึงอิทธิพลที่ได้รับมาจากศิลปะแบบเปอร์เชียน
ซึ่งมีดอกไอริสอันถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์
และเครื่องหมายสามเหลี่ยมด้านเท่า
2
ภาพซ้อนกัน
เข้ามามีบทบาทสำคัญในการประดับและตกแต่งโบสถ์แห่งนี้ ส่วนศาสนสถานอื่น ๆ ก็มี เอล
ตรัน ซิโต ได้กลายเป็น พิพิธ ภัณฑ์เซฟาร์ดิก ในปัจจุบัน
อีกหนึ่งผลงานสถาปัตย กรรมในแบบสเปน ที่ถือได้ว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมในศตวรรษ ที่
16
ที่ดีที่สุด
นั่นคือ อัลกา ซาร์ ป้อมปราการบนยอดเขา อัน เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหน้าด่าน
ป้อมนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ชาวเมืองภูมิใจในฐานะที่เป็นป้อมปราการที่ยากแก่การเข้าโจมตีของข้าศึก
ที่เที่ยวอีกแห่งคือ วัง เอล เอสกอเรียล วังหลวงที่พระเจ้าเฟลิเปที่
2
ทรงสร้างขึ้น
เมื่อปี ค.ศ.
1563
และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.
1584
รวมเวลาที่ใช้ก่อ สร้างนานถึง
21
ปี โดยลักษณะ
ของวังแห่งนี้ผสมผสานความ หมายของทั้งวัง วัด และโบสถ์รวมอยู่ในที่เดียวกัน
จุดน่าสนใจคือมีประตูถึง
1,200
ประตู และ
หน้าต่างรวม
2,673
บาน ที่สำคัญ มีสิ่งที่บรรดาหนอนหนังสือเห็น แล้วอาจน้ำลายสอ เพราะมีห้องสมุด
ซึ่งกล่าวกันว่าใหญ่มาก จะเป็นรองก็เพียงห้องสมุดกรุงวาติกัน
และที่นี่เป็นแหล่งสะสมงานเขียนในภาษาอาหรับมากที่สุดในโลก
...สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเยี่ยมเยียนเมืองสเปนครั้งหน้า
คงไม่พลาดการได้เดินทางไป นครโทเลโด เพราะอรรถ รสแห่งศิลปะรวมไว้ ณ เมืองนี้
เมืองแห่งประวัติศาสตร์ สถาปัตย กรรม
และแหล่งรวมภาพอันน่าประทับใจของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ในอดีต
และที่คงความประทับใจเป็นที่สุด ก็เห็นจะเป็นความสดใส
และอัธยาศัยของชาวสเปนซึ่งฉาบฉายไว้ทุกมุมเมือง